MOBILE APPLICATION DEVELOPMENT
รับพัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน
ปัจจุบันประเภทของ MOBILE APPLICATION มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 3 ประเภท ซึ่งจะอธิบายแต่ละประเภทโดยสังเขป เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกตัดสินใจได้ว่า จะพัฒนา MOBILE APPLICATION
สำหรับธุรกิจของตัวเองในรูปแบบประเภทใด โดยแต่ละประเภท เราพัฒนาระบบให้บริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม
Native Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นโดยอาศัย Library หรือ SDK ของแพลตฟอร์ม(Platform) นั้นๆ ตามที่ผู้พัฒนาอุปกรณ์ได้จัดทำขึ้น เช่น iOS สำหรับ iPhone, iPad, Apple Watch จะใช้ภาษา Object C หรือ Swift โดยการพัฒนาจะต้องใช้โปรแกรม XCode ส่วนAndroid จะใช้ภาษา Java และใช้โปรแกรม Android Studio ในการพัฒนา และWindow Phone ใช้ภาษา C# และใช้โปรแกรม Visual Studio ในการพัฒนา- สามารถดึงทรัพยากรของระบบมาใช้งานได้เต็มที่และ มีประสิทธิภาพสูงสุด
- สามารถใช้งานชุดคำสั่งต่าง ๆ สำหรับ Platform นั้นๆ ได้อย่างครบถ้วน
- เหมาะสำหรับแอปใหญ่ๆ ที่ใช้ทรัพยากรมาก และต้องการ เน้นความเร็ว
- ต้องพัฒนาแต่ละ Platform คือ ถ้าต้องการมี App บน iOS, Android, Window Phone จะต้องพัฒนาแยกกัน
- ใช้เวลา และต้นทุนที่สูง โดยประมาณ 2-6 เดือน แล้วแต่ขอบเขตงาน
Hybrid Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการให้สามารถ รันบนระบบปฏิบัติการได้ทุก OS โดยใช้ Framework เข้าช่วย เพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกระบบปฏิบัติการ การพัฒนาใกล้เคียงกับ Web App คือใช้ภาษา HTML, CSS และ JavaScript ในการพัฒนา ร่วมกับ Component ที่ทำให้แอปพลิเคชันสามารถเรียกใช้ความสามารถของฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ได้ ปัจจุบันมี Framework ในการพัฒนา แอปพลิเคชันแบบ Hybrid App อยู่มากมาย เช่น PhoneGap, Ionic, Framework7หรือ React Native- พัฒนาด้วยภาษา HTML, CSS และ JavaScript จึงทำให้ระยะเวลาในการพัฒนาน้อยลง
- พัฒนาครั้งเดียวสามารถใช้ได้หลาย Platform ทั้ง iOS, Android และ Window Phone
- ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่า Native App
- ประสิทธิภาพการทำงานจะด้อยกว่า Native App
- ในบางกรณีอาจจะใช้ความสามารถของอุปกรณ์ได้ไม่เต็มที่
Web Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็น Browser สำหรับการใช้งานเว็บเพจต่างๆ ถูกปรับแต่งให้แสดงผลแต่ส่วนที่จำเป็น เพื่อเป็นการลดทรัพยากรในการประมวลผลของสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ซึ่งทำให้โหลดหน้าเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น และผู้ใช้งานยังสามารถใช้งาน ผ่านอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ตในความเร็วตํ่าได้อีกด้วย- ใช้เวลาในการพัฒนาได้รวดเร็ว
- ใช้กำลังคน และ ต้นทุนในการพัฒนาน้อย
- ใช้งานได้ทุกที่แม้ไม่มี Internet
- ประสิทธิภาพการทำงานจะด้อยกว่าประเภทอื่นๆ ด้วยข้อจำกัด
- ในบางกรณีอาจจะใช้ความสามารถของอุปกรณ์ได้ไม่เต็มที่