MOBILE APPLICATION DEVELOPMENT
รับพัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน
Native Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นโดยอาศัย Library หรือ SDK ของแพลตฟอร์ม(Platform) นั้นๆ ตามที่ผู้พัฒนาอุปกรณ์ได้จัดทำขึ้น เช่น iOS สำหรับ iPhone, iPad, Apple Watch จะใช้ภาษา Object C หรือ Swift โดยการพัฒนาจะต้องใช้โปรแกรม XCode ส่วนAndroid จะใช้ภาษา Java และใช้โปรแกรม Android Studio ในการพัฒนา และWindow Phone ใช้ภาษา C# และใช้โปรแกรม Visual Studio ในการพัฒนา- สามารถดึงทรัพยากรของระบบมาใช้งานได้เต็มที่และ มีประสิทธิภาพสูงสุด
- สามารถใช้งานชุดคำสั่งต่าง ๆ สำหรับ Platform นั้นๆ ได้อย่างครบถ้วน
- เหมาะสำหรับแอปใหญ่ๆ ที่ใช้ทรัพยากรมาก และต้องการ เน้นความเร็ว
- ต้องพัฒนาแต่ละ Platform คือ ถ้าต้องการมี App บน iOS, Android, Window Phone จะต้องพัฒนาแยกกัน
- ใช้เวลา และต้นทุนที่สูง โดยประมาณ 2-6 เดือน แล้วแต่ขอบเขตงาน
Hybrid Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการให้สามารถ รันบนระบบปฏิบัติการได้ทุก OS โดยใช้ Framework เข้าช่วย เพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกระบบปฏิบัติการ การพัฒนาใกล้เคียงกับ Web App คือใช้ภาษา HTML, CSS และ JavaScript ในการพัฒนา ร่วมกับ Component ที่ทำให้แอปพลิเคชันสามารถเรียกใช้ความสามารถของฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ได้ ปัจจุบันมี Framework ในการพัฒนา แอปพลิเคชันแบบ Hybrid App อยู่มากมาย เช่น PhoneGap, Ionic, Framework7หรือ React Native- พัฒนาด้วยภาษา HTML, CSS และ JavaScript จึงทำให้ระยะเวลาในการพัฒนาน้อยลง
- พัฒนาครั้งเดียวสามารถใช้ได้หลาย Platform ทั้ง iOS, Android และ Window Phone
- ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่า Native App
- ประสิทธิภาพการทำงานจะด้อยกว่า Native App
- ในบางกรณีอาจจะใช้ความสามารถของอุปกรณ์ได้ไม่เต็มที่
Web Mobile Application Development
เป็นรูปแบบ Mobile Application ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็น Browser สำหรับการใช้งานเว็บเพจต่างๆ ถูกปรับแต่งให้แสดงผลแต่ส่วนที่จำเป็น เพื่อเป็นการลดทรัพยากรในการประมวลผลของสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ซึ่งทำให้โหลดหน้าเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น และผู้ใช้งานยังสามารถใช้งาน ผ่านอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ตในความเร็วตํ่าได้อีกด้วย- ใช้เวลาในการพัฒนาได้รวดเร็ว
- ใช้กำลังคน และ ต้นทุนในการพัฒนาน้อย
- ใช้งานได้ทุกที่แม้ไม่มี Internet
- ประสิทธิภาพการทำงานจะด้อยกว่าประเภทอื่นๆ ด้วยข้อจำกัด
- ในบางกรณีอาจจะใช้ความสามารถของอุปกรณ์ได้ไม่เต็มที่